ช่วงนี้สงสัยออนเซ็นจะฮอตจะฮิตจริงๆ คนอีเมลมาถามเรื่องออนเซ็นส่วนตัวเยอะมาก วันนี้ได้โอกาสมารีวิวออนเซ็นส่วนตัวที่ Kashikiri Onsen ซึ่งสาขาที่มาในวันนี้จะเป็นสาขา สุขุมวิท 101/1 ที่มาสาขานี้ไม่ใช่อะไร สาขานี้ลดราคาอยู่ แช่ 45 นาที ไม่ถึง 600 บาท (ลองหาตามแอพสปาดูกันนะ)

ก่อนจะมารีวิวที่นี่ก็หาข้อมูลมาสักพักละว่าที่นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ที่ ที่ให้บริการออนแบบส่วนตัว แถมยังมีสตอรี่ด้วย เลยพลาดไม่ได้เลยที่ทีมเราจะไปลุยรีวิวมาให้ดูกัน

แน่นอนว่าการแช่ออนเซ็นแบบแก้ผ้าหมดเลย หลายๆคนอาจจะไม่กล้าถอดหมด เลยทำให้ไม่กล้าไปแช่ออนเซ็น แต่ที่นี่ก็แก้ผ้าหมดเลยเหมือนกันนะ แต่แก้แบบอยู่คนเดียวเลยอาจจะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ยังอายอยู่

อะมาเริ่มกันก่อนเลย สาขานี้จะมีที่จอดรถอยู่ด้วยทำให้มาได้อย่างสบายๆ เมื่อจอดรถหน้าร้านเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปในร้านกันเลย

ในร้านก็จะมีส่วนต้อนรับอยู่ ซึ่งชอบการตกแต่งตรงนี้มาก ทำให้รู้สึกเหมือนมาบ้านเพื่อนที่ญี่ปุ่นเลย ตกแต่งได้อบอุ่นมาก

 

ตอนมาถึงพนักงานก็จะเตรียมรองเท้ามาให้เปลี่ยนตั้งแต่ตอนเข้าเลยการบริการถือว่าดีตั้งแต่เริ่มต้นเลยเมื่อเข้ามาถึงก็เดินเข้ามาที่ห้องโถงเพื่อนั่งพักนั่งเพียงแปปเดียวก็มีชาเขียวมาเสริฟ

 

เสริฟเสร็จก็มาต่อกันด้วย ผงออนเซ็น ที่นี่จะมีให้เลือกสองแบบ(อ่านในรีวิวคนอื่นบอกมี 3 แบบ ) แบบแรกจะเป็นของ Beppu ซึ่งจะช่วยเรื่องผิวให้นุ่มลื่น อีกแบบจะเป็น Noboribetsu จะช่วยเรื่องผ่อนคลายกล้ามเนื้อและพวกข้อต่อต่างๆ

 

 

เนื่องจากเราได้ทำการจองมาเรียบร้อยแล้ว พี่พนักงานก็ไม่ถามอะไรมาก ก็พามุ่งตรงไปที่ห้องกันเลย ห้องที่นี่ หลักๆจะเป็นห้องสำหรับออนเซ็นโดยเฉพาะซึ่งจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 ห้อง สำหรับคนมาคู่หรือมาเดี่ยวก็มีห้องรองรับหมด พี่พนักงานก็จะแนะนำห้องออนเซ็นให้ ห้องออนเซ็นที่นี่จะเป็นแบบส่วนตัวสำหรับ 1 คน และ ส่วนตัวสำหรับ 2 คน พี่พนักงานแอบกระซิบมาว่า ห้องส่วนตัวแบบ 2 คน ขายดีมาก คู่รัก คู่เพื่อนมาแช่กันเต็มเลย ส่วนห้อง 1 คนก็จะเปิดมาติดกันได้เหมือนกันรีเควสตอนจองมาได้เลย

 

เมื่อพร้อมแล้วก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนได้เลยจะมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกตามชายหญิงเลยนะภายในห้องก็จะมีพวกอุปกรณ์ต่างๆเตรียมไว้ให้อย่างเรียบร้อยเลยมีทั้งที่เป่าผมที่แต่งผมกระจกแล้วก็มีล็อกเกอร์ให้ด้วยถือว่าค่อนข้างครบสำหรับห้องแต่งตัวแต่แอบบ่นนิดนึงจริงๆอยากให้มีแอร์ในห้องแต่งตัวเหมือนกันนะเพราะแอบร้อนเหมือนกันตอนเปลี่ยนชุด

 

เมื่อจัดการเปลี่ยนทุกอย่างเสร็จก็ไปต่อกันที่ ห้องแช่ออนเซ็นเลย ในห้องแช่ที่เลือกวันนี้จะเป็นแบบบ่อคู่ ซึ่งจะอยู่ติดกับบ่อเดี่ยวทั้งสองบ่อเลย สองห้องทางด้านซ้ายจะเป็นบ่อเดี่ยวที่สามารถ เปิดประตูมาเจอกันได้ ห้องด้านขวาสุดจะเป็นห้องสำหรับบ่อคู่ ซึ่งด้านบนเพดานก็จะเชื่อมต่อกันหมด เพดานด้านบนก็เว้นว่าง คุยกันเสียงเบาๆก็แอบได้ยินอยู่ แต่เวลาที่ไป ไม่มีคนอื่นๆมาแช่ในเวลาเดียวกันนะ ไม่แน่ใจว่าไปเช้าไปหรือเปล่า

พอเข้ามาในห้องก็เริ่มต้นสำรวจของในห้องกันก่อน ส่วนแรกจะเป็นส่วนอาบน้ำ ก็จะมีอุปกรณ์มาให้เป็น เก้าอี้ 2 ตัว ขัน 1 อัน และ อุปกรณ์ อาบน้ำสระผมจำนวน 3 ชนิดซึ่งถือว่าเตรียมมาให้ครบถ้วนรวมถึงกระจกที่อยู่กับฝักบัวด้วยตรงโซนพื้นถือว่าทำมาได้ค่อนข้างดีเหมือนกันมีช่องระบายน้ำแบบน้ำไม่ค้างตรงที่อาบน้ำเลย

 

อีกโซนคือโซนอ่างออนเซ็นนั่นเอง เข้ามาถึงก็มีการเตรียมน้ำไว้ให้หมดแล้ว ในน้ำก็จะเป็น อันที่พนักงานให้เราเลือกไว้ตอนแรกนั่นเอง ตรงอ่างน้ำก็จะมีการเตรียมน้ำเย็นเอาไว้ให้ด้วยเพื่อเอาไว้จิบตอนลงแช่นั่นเอง

ขั้นแรกของการมาแช่ออนเซ็นก็คือการล้างตัวก่อนนั่นเอง เราล้างตัวกันในโซนอาบน้ำ น้ำไม่ขังเลย อันนี้ชมการจัดห้องของที่นี่เลย

สำหรับบ่อแช่ก็เก็บความร้อนได้ดีมาก ระหว่างการแช่เกือบๆ 40 นาทีถือว่าน้ำอยู่ในอุณหภูมิร้อนตลอดเวลาเลย แทบไม่ต่างจากตอนลงครั้งแรกเลย

แน่นอนว่าการลงแช่ออนเซ็นเนี่ยแช่นานเกินไปก็ไม่ดีเหมือนกันเพราะอาจจะทำให้หน้ามืดได้ ในห้องก็จะมีวิธีการแช่แปะอยู่ให้อ่านด้วย หลักการง่ายๆก็คืออาบน้ำก่อนลงแช่ ก่อนลงไปเต็มตัวก็แช่ขาเพื่อให้ร่างกายปรับอุณหภูมิก่อน หลังจากนั้นก็ลงไปแช่รอบละ 7-10 นาที เมื่อครบเวลา หรือ รู้สึกร้อนก็ลุกขึ้นมาเพื่อให้ร่างกายได้พักก่อน ตอนพักขึ้นมาก็อาบน้ำเย็นและยืนพักสักพักเพื่อให้ร่างกายเย็นขึ้นก่อน เมื่อรู้สึกว่าเริ่มโอเคแล้วก็ลงไปแช่ออนเซ็นอีกครั้ง ทำแบบนีประมาณ 2-3 รอบก็จะหมดเวลาพอดี ระหว่างแช่นี่เหงื่อออกเป็นกะละมังเหมือนกัน เพราะร้อนมากๆ ใครที่ไม่เคยมาก็เตรียมตัวไว้ด้วยนะ แนะนำให้จิบน้ำตลอดการแช่เลย จิบที่ละนิดเรื่อยๆเลย

 

พอใกล้จะหมดเวลาประมาณ 5 นาที พี่พนักงานก็จะมาเรียกให้เตรียมตัว ซึ่งตอนนี้เราก็เตรียมตัวอาบน้ำได้เลย อาบน้ำเสร็จก็ไปต่อที่ห้องแต่งตัว จัดการแต่งตัวเซทผม

 

 

พอออกมาตรงที่รับรองก็มีเค้ก แตงโม และ ชาเขียววางรออยู่ ทำให้หายหิวเลย บอกเลยว่าแช่ออนเซ็นออกมานานๆนี่เหลือ และ หิวมากเลยนะ แนะนำว่าไปกินข้าวก่อนมาแช่เลย เราไปแช่กันตอน 11:30 ออกมาคือหิวมากกกกก

 

หลังจากกินเสร็จก็พาไปดูห้องนวดกันสักเล็กน้อย ที่นี่ก็จะมีห้องนวดเท้า ห้องนวดไทย และ ก็ห้องนวดอโรม่า ซึ่งห้องน้ำก็จะอยู่แยกแต่ก็อยู่ใกล้ๆกันนะ เดี๋ยวไว้มีโอกาศมาลอง นวดแล้วจะมารีวิว วันนี้มาออนเซ็นแบบล้วนๆเลย โดยรวมก็ถือว่าถูกใจอยู่นะ ราคาไม่แรง พนักงานน่ารักดี คงกลับมาซ้ำบ่อยๆ

Kashikiri Onsen and Spa ออนเซ็นส่วนตัว สำหรับ คู่เพื่อน คู่รัก หรือ จะมาคนเดียวก็ได้ ร้านอยู่ที่ สุขุมวิท  101/1 จะมาก็อย่าลืมเปิดรีวิวให้เค้าดูด้วยล่ะ จะได้ห้องแบบเดียวกัน